ความฝันที่ตามหาโดยบิดาแห่ง G-SHOCK
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1983 G-SHOCK ได้เผชิญกับความท้าทายและกระบวนการวิวัฒนาการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สามสิบกว่าปีแล้วที่นาฬิกาเริ่มเปิดตัว G-SHOCK Dream Project ซึ่งเป็นภารกิจใหม่ของ Kikuo Ibe ที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
จุดมุ่งหมายคือการนำนาฬิการุ่นที่หุ้มด้วยโลหะมาเป็นเวลานานซึ่งมีโครงสร้างกันแรงกระแทก จากนั้นประดิษฐ์ใหม่มันขึ้นมาด้วยวัสดุที่ดีที่สุด นั่นคือทองคำ
อ่านเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับความท้าทายขั้นสุดยอดนี้
ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ตัวเรือนโลหะ
นับตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นแรกในปี 1983 G-SHOCK ได้ก้าวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงแนวโน้มทางวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อนำเสนอความหลากหลายที่มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภควัยหนุ่มสาวต่างชื่นชมกับดีไซน์และสีสันที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งพวกเขายอมรับนาฬิการุ่นนี้ในฐานะแฟน G-SHOCK ตัวยง จากนั้นในปี 1990 G-SHOCK ได้เปลี่ยนไปสู่อีกขั้นของวิวัฒนาการ: การพัฒนารุ่นที่แฟนๆ รุ่นแรกๆ จะยังคงหลงรัก แม้ว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้นก็ตาม: นั่นคือ G-SHOCK รุ่นโลหะ นี่คือจุดแห่งความภาคภูมิใจและความมุ่งมั่นส่วนตัวสำหรับ Kikuo Ibe ผู้พัฒนารุ่นแรกสุด
เรซินมีน้ำหนักเบาและง่ายต่อการแปรรูป ดังนั้นจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบภายนอกของ G-SHOCK จนถึงจุดนั้น การรับรองความทนทานต่อการตกกระแทกบ่งบอกถึงความจำเป็นในการจำกัดน้ำหนักของนาฬิกาเอง และยังกำหนดให้มีการออกแบบที่มีพื้นผิวไม่เรียบหลายแบบอีกเช่นกัน ในตอนนี้ ความฝันคือการใช้รูปลักษณ์เดิม แต่ยังเป็นโลหะ ที่มีระดับความแข็งแกร่งที่สูงขึ้น กระบวนการพัฒนานั้นมีความท้าทายอย่างยิ่ง แต่หลังจากสองปีของการลงมือทำ ก็ถือกำเนิดรุ่น MR-G MRG-100
การใช้โครงสร้างตัวเรือนกลวงแบบเดียวกับรุ่นที่นำความสำเร็จมาสู่การพัฒนารุ่นแรก MRG-100 จึงเป็นทายาทในด้านความเป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK คราวนี้วัสดุที่ใช้เป็นสแตนเลสแบบหล่อขึ้นรูป รุ่นนี้มีโครงสร้างโลหะล้วนที่ทนทานต่อแรงกระแทกจาก ซึ่งเกิดขึ้นได้จากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย รวมถึงโมดูลที่กันแรงกระแทก โครงสร้างตัวกันกระแทกกรอบ และขอบยางบริเวณด้านหลังตัวเรือน


ผสานความความแข็งแรงและความงาม
เปิดตัวพร้อมกับการเปิดตัวของรุ่น MRG-100 กลุ่มผลิตภัณฑ์ MR-G ได้เร่งวิวัฒนาการไปสู่โครงสร้างโลหะล้วนสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำของนาฬิกา G-SHOCK มีการเพิ่มการใช้งานวัสดุมากมายนอกจากสแตนเลสเพื่อสร้างรูปลักษณ์แบบต่างๆ เช่น ไทเทเนียม เทคนิคการขึ้นรูปขั้นสูงถูกนำมาใช้ในการหล่อรูปลักษณ์ที่ซับซ้อนของกรอบ ตัวเรือน และสาย รวมถึงผิวสัมผัสแบบขนแมวและกระจกถูกนำมาใช้ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างเข้มงวด ด้วยกระบวนการนี้ การพัฒนาจึงขับเคลื่อนด้วยการแสวงหาคุณภาพที่ดีที่สุด และนาฬิกาก็ดูมีฝีมือที่ประณีตมากขึ้นเรื่อยๆ
มีการเปิดตัวรุ่นอื่นๆ ด้วยเช่นกัน รวมถึง MT-G และ G-STEEL ที่ผสมผสานระหว่างโลหะและเรซิน ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ รุ่นโลหะก็ชื่อเสียงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ G-SHOCK ที่เทียบเท่ากับรุ่นเรซิน



เมื่อที่สุดมาเจอกับระดับสุดยอด
ในตอนนี้ เวลาที่ผ่านมาอย่างรวดเร็วเป็นเวลา 30 ปีนับจากการก่อตั้ง G-SHOCK นาฬิกาที่เป็นสุดยอดแห่งความทนทานได้สร้างหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์คือ: สุดยอดแห่งการค้นคว้า รุ่นทอง 18k พิเศษในตำนาน แนวคิดในที่นี้คือ: คุณค่าแบบนิรันดร์ ตามที่ Kikuo Ibe ได้กล่าวว่า “การร่วมมือระหว่าง G-SHOCK ที่เป็นที่สุดแห่งความทนทานและทองคำที่เป็นสุดยอดแห่งโลหะ ได้ตอบโจทย์ความท้าทายในฝันของผม นั่นคือการผสมผสานระหว่างความสุดยอดจริงกับความเป็นที่สุดอย่างแท้จริง”
รุ่นแรกได้รับการพัฒนาให้เป็นรุ่นตามแนวคิดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณแห่งความท้าทายของ G-SHOCK Ibe ซึ่งเป็นผู้นำของโปรเจคนี้ มีความหลงใหลในความเป็นไปได้ดังกล่าว และการผลิตรุ่น "ของจริง" ในเวอร์ชันที่สอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ G-SHOCK นั้นได้รับการตั้งเป้าหมายการพัฒนาไว้ มีการจัดตั้งทีมงานเพื่อดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้น
ปัญหาแรกที่พวกเขาจัดการคือการพัฒนาโครงสร้างกันแรงกระแทกใหม่สำหรับทองคำ 18k น้ำหนักทองนั้นมากกว่าสแตนเลสถึง 150% ด้วยโครงสร้างแบบเดิม อาจเป็นการยากที่จะให้ได้เกณฑ์ด้านความทนทานต่อแรงกระแทก วิธีแก้ปัญหาของพวกเขาคือการหุ้มตัวเรือนด้านในของนาฬิกาในตัวเรือนด้านนอกด้วยวัสดุกันกระแทกเรซินแบบละเอียดในระหว่างกลางเพื่อให้ดูดซับแรงกระแทกรอบทิศทาง ซึ่งเป็นความสำเร็จที่พวกเขาทำได้โดยใช้แนวคิดที่เป็นนวัตกรรมของ "โครงสร้างเปลือกแบบใหม่"
ทีมงานยังให้ความสำคัญกับการแปรรูปทองคำที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนในระดับสูงสุด ด้วยการศึกษาผู้ผลิตและช่างฝีมือผู้ชำนาญครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาได้บรรลุกระบวนการสร้างผิวสัมผัสที่มีรายละเอียดซึ่งรวมเข้ากับการหล่อที่มีความแม่นยำสูงและส่วนประกอบขนาดเล็กที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือ ตั้งแต่ตัวเรือน สายและปุ่มไปจนถึงสกรูชิ้นที่เล็กที่สุด ทั้งหมดนี้สามารถผลิตได้ด้วยทองคำ 18k
พวกเขาได้ทุ่มเทแรงใจและเทคโนโลยีทั้งหมดที่พวกเขามีให้กับโปรเจคอันทะเยอทะยานนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งที่สุดแห่งสุดยอด นี่คือการกำเนิดความฝันของ G-SHOCK อันมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริงด้วยจิตวิญญาณแห่งการ "ไม่เคยยอมแพ้"



มีมูลค่ามากกว่าที่เคย ในราคาที่สุดคุ้ม
G-SHOCK รุ่นทอง 18k ที่สมบูรณ์แบบได้เปิดตัวที่ Baselworld 2015 โดยเรียกว่ารุ่น “Ibe Special” ต่อมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่มีนัยสำคัญ ทีมงานจึงดำเนินการเตรียมนาฬิกาให้พร้อมสำหรับการเผยแพร่สู่สาธารณะ มีการสั่งผลิตจำนวนจำกัด 35 ชิ้นทั่วโลก โดยนำเสนอเป็นรุ่นฉลองครบรอบ 35 ปีจากการก่อตั้ง G-SHOCK แม้จะมีราคาถึง 7.7 ล้านเยน แต่รุ่นที่ผลิตจำกัดก็ขายหมดในทันที
จากคำพูดของ Ibe “G-D5000 เป็นการสร้างสรรค์ที่ผจญภัยในดินแดนแห่งความฝันอย่างแท้จริงด้วยการหลอมรวม G-SHOCK ด้วยการแสวงหาความทนทานอย่างต่อเนื่อง และในอีกมุมมองหนึ่งคือทองคำ ที่เป็นวัสดุของความสง่างามอย่างที่สุด ดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมซึ่งได้รับกาiรักษามาตั้งแต่รุ่นแรก เป็นสัญลักษณ์ของจุดเริ่มต้นของ G-SHOCK ซึ่งเป็นแนวคิดของนาฬิกาที่แข็งแกร่ง และความแวววาวของทอง 18k นั้นเป็นการผสานของความฝันของ G-SHOCK รุ่นโลหะล้วนที่นำเสนอด้วยระดับคุณภาพที่ดีที่สุด หนึ่งในประวัติของ G-SHOCK ยังเป็นประวัติศาสตร์ของการทำความฝันให้เป็นจริงอีกเช่นกัน”
จากความท้าทายที่ Kikuo Ibe เผชิญด้วย G-SHOCK พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ที่สร้างเพียงสิ่งสุดยอด ยังคงดำเนินต่อไป


