Skip to content

เพิ่มในรายการโปรดแล้ว

การท้าทายเรื่อง
ความทนทานต่อแรงกระแทก

G-SHOCK ซีรีส์ DW-5600 vs รถบรรทุกกึ่งพ่วง

G-SHOCK ซีรีส์ DW-5600 vs รถบรรทุกกึ่งพ่วง

ความทนทานต่อแรงกระแทกของ G-SHOCK จะรับมือกับการทดสอบของอเมริกาได้หรือไม่

G-SHOCK แข็งแกร่งจริงใช่ไหม เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ ในฉบับที่แล้ว
เราได้ทำการทดสอบความทนทานต่อแรงกระแทกโดยใช้ DECO-TORA
ในคราวนี้ ที่มีเมืองลอสแอนเจลิสเป็นเวที เราได้ยกระดับการทดสอบไปอีกขั้น
โดยการเตรียมรถบรรทุกกึ่งพ่วงขนาดใหญ่ที่ใช้ขนส่งสินค้า
น้ำหนักมีมากถึง 27,215 กก. ซึ่งมากกว่าการทดลองครั้งก่อนถึงสี่เท่า เป็นขนาดที่พบเห็นได้ยากในญี่ปุ่น
G-SHOCK อันเป็นที่รักของญี่ปุ่นจะสามารถรับมือกับการทดสอบเรื่องความทนทานสุดโหดของอเมริกาได้หรือไม่
ร่วมค้นพบคำตอบการทดลองอันน่าทึ่งทั้งในรูปแบบบทความและวิดีโอ

G-SHOCK
ภาพของนาฬิกา G-SHOCK สีดำวางบนพื้น
0.052 กก.
 สูง 0.0134 ม.
 กว้าง 0.0428 ม.
 ยาว 0.0489 ม.
 กันน้ำ 20 บาร์
 ทนทานต่อแรงกระแทก
VS
รถบรรทุกกึ่งพ่วง
ภาพของรถบรรทุกกึ่งพ่วงที่จอดบนถนนลูกรังที่กว้างขวาง
27,215 กก.
สูง 4.14 ม.
กว้าง 2.59 ม.
ยาว 22.86 ม.
เครื่องยนต์ 14.7 ลิตร

เกินความคาดหมาย
ด้วยความทนทานขั้นสุด

การทดลองนี้จัดขึ้นในที่ที่ห่างจากใจกลางเมืองลอสแอนเจลิสโดยใช้เวลาขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมง ใกล้กับอุทยานหินวาสเคซ สถานที่อันโด่งดังที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง พิภพวานร (Planet of the Apes) บนพื้นที่เลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่กลางทะเลทราย แม้ว่าเมือง LA จะเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีทันสมัย รถยนต์ไฟฟ้า และแท็กซี่แบบไร้คนขับ สถานที่นี้กลับเป็นเหมือนมุมที่ถูกลืมของอเมริกาตะวันตก ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่าจะได้เห็นคาวบอยควบไปกับม้าคู่ใจของพวกเขา

ภาพคอลลาจของฟาร์มปศุสัตว์อันกว้างใหญ่ในทะเลทรายใกล้อุทยานหินวาสเคซและรถบรรทุกกึ่งพ่วง

ณ เวลา 10 โมงตรง รถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ปรากฎขึ้นมาจากเนินเขา เตรียมที่จะมอบแบบทดสอบสุดโหดให้กับ G-SHOCK ท่ามกล่างธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ความยาวที่น่าทึ่งถึง 22 เมตรทำให้รถบรรทุกนี้เปรียบเสมือนสัตว์ร้ายที่น่าเกรงขาม โดยมีความยาวเกือบ 2.5 เท่าของ DECO-TORA (ประมาณ 9 เมตร) ที่ใช้ในการทดสอบครั้งก่อน ด้วยล้อ 5 ล้อในแต่ละด้านและน้ำหนักรวม 27,215 กก. รอยล้อที่ทิ้งไว้บนผืนทราบเป็นข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงน้ำหนักมหาศาล แม้แต่ทีมถ่ายทำที่มีความมั่นใจมากขึ้นในเรื่องความทนทานของ G-SHOCK จากการทดลองครั้งก่อน ก็อดเป็นกังวลไม่ได้เมื่อได้พบกับสิ่งที่นาฬิกาจะต้องเผชิญ ณ เวลา 10 โมง 58 นาที ภายใต้แสงแดดที่แผดเผาของแคลิฟอร์เนีย การทดลองก็ได้เริ่มต้นขึ้น เครื่องยนต์รถบรรทุกพ่วงส่งเสียงคำรามพร้อมเคลื่อนตัว นำพาฝุ่นทรายกระจัดกระจายไปในอากาศ พื้นดินสั่นไหวภายได้เสียงดังสนั่น คาวเกิร์ลบนหลังม้าควบนำรถบรรทุกไปที่จุดเป้าหมาย แต่ขณะที่เครื่องยนต์ส่งเสียงคำราม ม้าก็ตื่นตกใจ ส่งเสียงร้องแหลมและเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว รถบรรทุกขับไปข้างหน้าเพื่อไล่ตาม ส่งฝุ่นคละคลุ้งขณะที่เข้าใกล้จุดหมายมากขึ้นเรื่อยๆ และแล้ว การปะทะกับนาฬิกาก็เกิดขึ้น G-SHOCK ถูกกดทับภายใต้ยางขนาดใหญ่ สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่ล้อทั้งห้ากลิ้งทับนาฬิกาอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีให้ความรู้สึกยาวนานจนแทบทนไม่ไหว ขณะที่นาฬิกาหายไปภายใต้น้ำหนักของสัตว์ร้ายขนาดมหึมา ในที่สุดรถบรรทุกก็หยุดตัวลง ทีมถ่ายทำรู้สึกลังเล มองกันไปมาก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า นาฬิกายังรอดอยู่ไหม G-SHOCK ยังอยู่ครบสมบูรณ์หรือเปล่า ฝุ่นเริ่มจางลง และนาฬิกาก็ค่อยเผยตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางฝุ่นที่คละคลุ้ง “10:58:35… 10:58:36…”
G-SHOCK ไร้รอยขีดข่วนและยังนับเวลามาตรฐานแปซิฟิกต่อไปอย่างต่อเนื่อง เสียงเชียร์และถอนหายใจด้วยความโล่งอกสะท้อนดังไปทั่วพื้นที่ คาวเกิร์ล ในตอนนี้ได้สวมใส่ G-SHOCK ที่ถูกขับทับอย่างภูมิใจโดยมีม้าของเธอที่ยกขาหน้าราวกับว่าประกาศชัยชนะ

ภาพ G-SHOCK สีดำที่ปกคลุมด้วยฝุ่นหลังถูกขับทับโดยรถบรรทุกกึ่งพ่วง

G-SHOCK ได้พิสูจน์อีกครั้งถึงความแข็งแกร่งไร้เทียมทานจากแบบทดสอบสุดโหดของอเมริกา การทดลองครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นที่ไหน G-SHOCK จะผลักดันขีดจำกัดด้านความทนทานในครั้งถัดไปได้อย่างไร ขณะที่พื้นที่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ค่อยๆ ลับสายตา เราเตรียมที่จะเดินทางกลับไปยังญี่ปุ่น ตั้งตารอความท้าทายครั้งใหม่

Select a location