ครั้งแรกกับการนำ G-SHOCK รุ่นแรกกลับมาใหม่ โดยที่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของแบรนด์ ร่วมเดินทางย้อนเวลากลับไปถึงจุดกำเนิดและนวัตกรรมที่สืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน: ก้าวใหม่ในรอบ 40 ปี ของการนำเอาการออกแบบที่คงความดั้งเดิมมาผสมผสานกับศิลปะแห่งเทคโนโลยีสมัยใหม่
วันที่ 13 มกราคม 2025
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2526 Casio ทำให้โลกตะลึงด้วยการเปิดตัว G-SHOCK เรือนแรก ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาให้สามารถต้านทานแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนในสภาพแวดล้อมที่ทรหด G-SHOCK รุ่นแรกมีความสามารถด้านการต้านทานแรงกระแทกที่สูงเกินค่ามาตรฐาน ISO ไปอย่างมาก โดยตัวนาฬิกาสามารถทนทานต่อแรงกระแทกจากการใช้งานหนักในกีฬาประเภทต่างๆ รวมถึงการคงทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานกับอุปกรณ์อย่างเลื่อยไฟฟ้า เครื่องเจาะทะลุ และเครื่องมือไฟฟ้าอื่นๆ ด้วยคุณสมบัติด้านศักยภาพนี้เอง เป็นตัวเปลี่ยนเกมทำให้ G-SHOCK เป็นนาฬิกาไลฟ์สไตล์ที่ทั่วโลกรู้จัก สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งอันบริสุทธิ์ไร้ข้อกังขานี้ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการนำทางสู่การออกแบบนาฬิการุ่นใหม่ทั้งหมดในครั้งนี้
ไม่ใช่แค่การนำฟังก์ชันขั้นสูงของ G-SHOCK รุ่นแรกกลับมาเท่านั้น นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการออกแบบอย่างปราณีต ในเรื่องรูปทรงอันโดดเด่น ด้วยการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ และในปี 2023 Casio ได้รับ 3D trademark สำหรับรูปทรงนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์โดยสำนักงานสิทธิบัตรแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นสำหรับนาฬิกาข้อมือ
วิสัยทัศน์
“นาฬิกาที่ทนทาน ไม่พังแม้ว่าจะตกหล่น” — คือหัวข้อนำเสนอแผนงานที่ส่งมาในที่ประชุมของบริษัท ที่มีเพียงข้อความบรรทัดเดียวอยู่บนกระดาษเท่านั้น ผู้นำเสนอคือ Kikuo Ibe ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการออกแบบภายนอกตัวเรือนนาฬิกาในขณะนั้น เขาเล่าถึงความคิดและความตัั้งใจที่ชัดเจนนี้ เกินขึ้นจากการที่เขามองดูนาฬิกาของเค้าพังจากการที่เขาบังเอิญทำตกที่ทำงาน ในเวลานั้น นาฬิกาถือเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและละเอียดอ่อน เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่านาฬิกาของคุณจะพังถ้าคุณทำตก แนวคิดเรื่องการสร้างนาฬิกาที่แข็งแกร่งนั้นแหวกแนวและล้ำหน้าเกินไป ณ ขณะนั้น ถึงกระนั้นข้อเสนอของเขาก็ได้รับการอนุมัติ ในที่สุด Project Team Tough ก็ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยสมาชิกในทีมเพียงสามคน และเริ่มการพัฒนานาฬิการูปแบบใหม่ต่อมา
MOVIE
PRODUCT MOVIE
คุณสมบัติ
การสร้างการออกแบบดั้งเดิมของ G-SHOCK รุ่นแรกขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสำคัญในประวัติศาสตร์นาฬิกาข้อมือ
ตั้งแต่การถือกำหนดของ G-SHOCK เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ทางแบรนด์ยังคงรักษาความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย แนวคิดในการออกแบบของรุ่นดั้งเดิมนั้นเต็มไปด้วยทัศนวิสัยที่มองการณ์ไกล DW-5000R รุ่นใหม่สุดพิเศษที่เป็นทายาทสืบต่อจิตวิญญาณนั้นได้รวมเทคโนโลยี G-SHOCK ปัจจุบันที่ทันสมัยเพื่อคืนชีพให้กับการออกแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยรายละเอียดที่เหมือนกับต้นฉบับ
ตัวเรือนสร้างจากสเตนเลสสตีลเหมือนดั่งรุ่นดั้งเดิม และตัวสายก็ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่โดยมีการออกแบบของรุ่นดั้งเดิมเช่นกัน ซึ่งละเอียดไปถึงความยาว รูปทรง และแม้แต่ตำแหน่งของรอยบุ๋ม การออกแบบที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของแบรนด์ที่มีมาตลอด 40 ปีแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่ไม่ลดละของ G-SHOCK ในการเปิดเส้นทางใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต
กรอบและสายผลิตจากเรซินเหมือนกับรุ่นดั้งเดิม แต่คราวนี้มาในรูปแบบเรซินชีวภาพ ซึ่งเป็นวัสดุที่คาดว่าจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แสงพื้นหลัง LED ความสว่างสูงทำให้นาฬิกาอ่านค่าได้สะดวกยิ่งขึ้น ขนาดของตัวเรือนได้รับการปรับเป็น 42.3 มม. จากเดิมที่มีขนาด 41.6 มม.
* รูปที่สาม (เรซินชีวภาพ) ใช้เพื่อเป็นภาพประกอบเท่านั้น

กรอบที่สร้างการออกแบบดั้งเดิมขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถัน
พื้นผิวด้านบนที่มีตัวอักษร “PROTECTION” และโลโก้ “G-SHOCK” มีการออกแบบที่แบนเรียบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ให้เหมือนกับกรอบของรุ่นดั้งเดิม

การออกแบบหน้าปัดที่เน้นด้วยสีแดง น้ำเงิน และเหลือง
การเน้นด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นดั้งเดิมได้รับการถ่ายทอดมายังรุ่นนี้ ซึ่งสีของแบรนด์ G-SHOCK ที่เป็นสีแดงแสดงถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อต่อการทลายขีดจำกัด สีน้ำเงินแสดงถึงความสามารถในการกันน้ำที่ยอดเยี่ยมของการออกแบบ และสีเหลืองแสดงถึงความทนทานต่อแรงกระแทก ลายอิฐอันเป็นเอกลักษณ์ก็ได้รับการนำมารวมด้วยเช่นกัน ซึ่งให้ความรู้สึกของความทนทาน



ด้านหลังตัวเรือนได้รับการขัดเงาอย่างสวยงาม
ด้านหลังตัวเรือนสืบถอดแนวคิดการออกแบบของ G-SHOCK รุ่นแรกไปถึงจุดเล็กๆ ซึ่งแสดงเค้าโครงและตัวอักษร “Shock Resistant” ที่เฉียบคมเหมือนกับต้นฉบับ
* การจัดวางของส่วนหลังตัวเรือนอาจมีความแตกต่างกันไปในนาฬิกาแต่ละเรือนเนื่องจากกระบวนการในการผลิต

การผลิตที่ Yamagata Casio
เพื่อแสดงความเคารพต่อวิศวกรผู้มีความสามารถที่สร้างสรรค์โมเดลแรกได้สำเร็จ นาฬิกาได้รับการผลิตโดยช่างฝีมือและวิศวกรระดับปรมาจารย์ที่โรงงาน Yamagata Casio ที่เป็น “โรงงานแม่” ของ G-SHOCK เหมือนกับรุ่นดั้งเดิม



Super Illuminator (แสงพื้นหลัง LED ความสว่างสูง) เพื่อให้ดูนาฬิกาได้ในที่มืด

LINEUP
SPECIFICATIONS
• ทนทานต่อแรงกระแทก
• กันน้ำลึก 200 เมตร
• นาฬิกาจับเวลา 1/100 วินาที
• ตัวนับเวลาถอยหลัง
• ระบบไฟกะพริบแจ้งเตือนหลากหลาย
• ระบบไฟกะพริบแจ้งเตือน
• ไฟ LED ให้แสงพื้นหลัง (Super Illuminator) แสงระเรื่อ
• ขนาดตัวเรือน (L× W× H):48.9 × 42.3 × 13.1 mm
• น้ำหนัก:76g