Skip to content

เพิ่มในรายการโปรดแล้ว

หลักสำคัญของการป้องกัน

ภารกิจที่ไม่มีวันสิ้นสุดเพื่อความสุดยอดในเรื่องคุณภาพ

“การประกันคุณภาพที่เข้มงวด” เพื่อความทนทานขั้นสุด

ภารกิจที่ไม่มีวันสิ้นสุดเพื่อความสุดยอดในเรื่องคุณภาพ

เบื้องหลังคุณภาพอันเหนือชั้นของนาฬิกา MR-G คือการทดสอบมากกว่า 200 จุด

MR-G ที่เป็นหมวดผลิตภัณฑ์เรือธงของ G-SHOCK ส่งมอบความทนทานที่พร้อมใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายทุกประเภท การรับประกันความน่าเชื่อถือในระดับนี้ต้องนำนาฬิกา MR-G มาผ่านการทดสอบต่างๆ มากมายเพื่อทำให้แน่ใจว่าผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวด เราขอให้ Ryosei Agari จาก Hamura R&D Center มาแบ่งบันความลับเบื้องหลังข้อกำหนดการประเมินสุดเข้มงวดที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับการทดสอบที่ Casio ได้ทำ ซึ่งบางอันนั้นมีความเข้มงวดจนถึงขั้นสูงสุด

Ryosei Agari

Ryosei Agari
Hardware Quality Assurance Section-12, Hardware Quality Assurance Department-1, Quality Assurance Unit, Development Headquarters, Hamura R&D Center

 

“ต้องใช้สิ่งใดเพื่อทำลายนาฬิกา”
ความพยายามที่ไม่หยุดยั้งเพื่อตามหาสุดยอดแห่งความทนทาน พร้อมการปรับปรุงและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

เดิมทีแล้วนาฬิกาข้อมือถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่มีความละเอียดอ่อนและแม่นยำที่ไม่ควรทำตกโดยเด็ดขาด แต่ความแข็งแกร่งของ G-SHOCK ที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1983 ได้สร้างประวัติศาสตร์ของการทดสอบความทนทานโดยการปล่อยนาฬิกาต้นแบบจากหน้าต่างชั้นสามของ Hamura R&D Center เมื่อเวลาผ่านไป การค้นหาสุดยอดคุณภาพได้ก่อให้เกิดหมวดผลิตภัณฑ์เรือธงของแบรนด์ที่มีชื่อว่า MR-G โดยที่วิธีการทดสอบก็ได้มีการพัฒนาไปพร้อมๆ กับตัวนาฬิกาจนสร้างคุณภาพที่น่าประทับใจอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับการแสวงหาความทนทานอย่างไม่ลดละนี้หน่อยได้ไหม

Agari อธิบายว่า “ระบบการประเมินในรูปแบบที่เราเห็นในวันนี้นั้นเริ่มต้นในปี 2001 ซึ่งเราได้เริ่มต้นการจัดการอย่างเป็นระบบสำหรับแนวทางการประเมินที่มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐาน โดยดึงเอาความรู้และความเชี่ยวชาญของเรามาใช้เพื่อตอบรับกับมาตรฐานที่เป็นทางการ”

เขากล่าวว่าฝ่ายประกันคุณภาพที่ Casio นั้นใช้ “มาตรการประกันคุณภาพที่เข้มงวด” ทีมประกันคุณภาพจะเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นแรกๆ ของการพัฒนา วางและเริ่มการทดสอบเพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง การทำเช่นนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นเป็นไปตามมาตรฐานด้านคุณภาพของ Casio

ภาพการประกันคุณภาพ 1

มีการประเมินประมาณ 100 รายการจากทั้งหมด 200 รายการที่เกี่ยวข้องกับคอนเซ็ปต์ของนาฬิกา การทดสอบนั้นรวมถึงการตกกระแทกและการนำค้อนมาเหวี่ยงใส่เพื่อทดสอบความทนทานต่อแรงกระแทก, การทดสอบการกันน้ำ, การทดสอบความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ การเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว และความชื้นกับมาตรฐานสภาพแวดล้อมด้านอุณหภูมิและความชื้น และการทดสอบเหงื่อและน้ำทะเลเทียมเพื่อประเมินความทนทานต่อการกัดกร่อน

MR-G มีมาตรฐานที่สูงที่สุดในบรรดานาฬิกา G-SHOCK แม้แต่การประเมินที่ทำกับรุ่นอื่นๆ ก็มักจะจำเป็นต้องมีคะแนนที่สูงกว่า จากหลายๆ เหตุผล หนึ่งในนั้นคือนาฬิกา MR-G ผสานรวมดีไซน์ที่ประณีตเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง จึงจำเป็นต้องมีคุณภาพในระดับที่สูงกว่า นอกจากนั้น ระยะเวลาในการประกันยังยาวนานกว่านาฬิกา G-SHOCK รุ่นอื่นๆ ซึ่งหมายความต้องมีข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นด้วย

Agari บอกว่าการประกันคุณภาพของ MRG-B2100 นั้นมีความท้าทายเป็นพิเศษเนื่องจากหน้าปัดที่เป็นโครงตาข่ายที่ได้แรงบันดาลใจมากจากงานไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Kigumi หน้าปัดที่มีรายละเอียดซับซ้อนและความเป็นเอกลักษณ์สูงมาพร้อมกับช่องเปิดมากมาย ทำให้เป็นเรื่องยากในการควบคุมกระบวนการขึ้นรูปโดยการฉีดเรซิน ทำให้การขึ้นรูปมีข้อผิดพลาดในช่วงต้นของการพัฒนา การทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้นำไปสู่ความสำเร็จในท้ายที่สุดที่ให้คุณภาพที่คู่ควรกับดีไซน์ภายนอกของ MR-G กระบวนการนี้อาศัยการวิเคราะห์การไหลแบบพิเศษและการออกแบบแม่พิมพ์โลหะใหม่ ขณะที่ดีไซน์ของ MR-G มีการพัฒนา ข้อกำหนดในการประเมินและเกณฑ์คุณภาพก็ได้รับการปรับปรุงอยู่บ่อยครั้ง นี่คือหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์นาฬิกาอันสวยงาม ส่องประกายอย่างน่าหลงไหล และมีความโดดเด่นในแบบที่ผู้ใช้คาดหวังจาก MR-G ที่เป็นหมวดผลิตภัณฑ์เรือธงของ G-SHOCK

“คอนเซ็ปต์นาฬิกาที่แปลกใหม่และดีไซน์ที่ไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนมากมายได้รับการเสนอในการพัฒนานาฬิกา MR-G และนาฬิกา G-SHOCK รุ่นอื่นๆ ไอเดียมีความสร้างสรรค์และแปลกใหม่มาก แต่นั่นก็มักจะมาพร้อมกับปัญหาด้านคุณภาพใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน เมื่อปัญหาเกิดขึ้น การที่หน่วยประกันคุณภาพเช่นเราจะปฏิเสธไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เราไม่ทำเช่นนั้น” Agari กล่าว

“นั่นเป็นเพราะว่าการแก้ไขปัญหาเหล่านี้มีความสำคัญยิ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของแฟน G-SHOCK ทั่วโลก แต่ยังดึงดูดแฟนๆ กลุ่มใหม่ด้วย เรามุ่งมั่นสำรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อหาวิธีส่งมอบเทคโนโลยีที่เป็นไปตามมาตรฐานด้านคุณภาพของ MR-G และระบุการประเมินคุณภาพอย่างพิถีพิถันเพื่อทำสิ่งนั้น เรามองคุณภาพระดับสูงในปัจจุบันว่าเป็นเพียงอีกก้าวหนึ่งในการค้นหาที่ไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับ ‘คุณภาพของ MR-G’ ที่แท้จริง เราเผชิญแรงกดดันอยู่บ้างในฐานะป้อมปราการสุดท้ายที่ปกป้องคุณค่าของแบรนด์ เราพบความท้าทายใหม่ๆ ในแต่ละวัน แต่นั่นทำให้การทำงานมีความคุ้มค่าและน่าตื่นเต้น ผมมีแรงบันดาลใจและชื่นชอบสิ่งที่ผมทำอย่างแท้จริง”

ภาพการประกันคุณภาพ 2

การประกันคุณภาพที่มีความเข้มงวดสูงหมายถึงการมองการณ์ไกลไปถึงอนาคต ในหลายอุตสาหกรรมและหลายวงการ การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและยื่นข้อเสนอทางธุรกิจกลายเป็นเรื่องปกติ Agari บอกว่าเขาหวังว่าจะได้รวมการใช้งานข้อมูลเข้ากับการพัฒนาเกณฑ์คุณภาพและวิธีการประเมินในอนาคต

ขณะที่เรารวมความต้องการของลูกค้าลงไปในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการกำหนดเกณฑ์คุณภาพ ก็มี ‘ลูกค้าเงียบๆ’ หลายรายในตลาดที่ไม่ได้แบ่งปันความเห็นของพวกเขากับบริษัทโดยตรง ผมหวังว่าเราจะสามารถดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพเช่นนี้ที่มีมากมายในสังคม ระบุความต้องการด้านคุณภาพล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อการรักษาและเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์โดยรวม”

ไม่นานมานี้ วิศวกรของเรามีโอกาสพูดคุยกับแฟนของ G-SHOCK โดยตรง ตัวอย่างเช่น ที่กิจกรรมสาธารณะที่ Hamura R&D Center และการทัวร์โรงงาน Yamagata Casio

Agari รู้สึกว่าการสื่อสารเช่นนี้สามารถส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พวกเขารักได้ดีมากขึ้น การสื่อสารโดยตรงกับแฟนๆ ช่วยให้เขาและทีมสามารถระบุข้อกำหนดในการประเมินที่ถ่ายทอดความหมายของ “ความแข็งแกร่ง” ที่ตีความโดยแฟนคลับของ G-SHOCK ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าใหม่ร่วมกับผู้ใช้

การพูดคุยกับแฟนๆ ทำให้ผมเกิดคำถามอย่างเช่น ความแข็งแกร่งแบบไหนที่พวกเขาต้องการเห็นสำหรับนาฬิกาที่ออกแบบมาให้มีความทนทานต่อการเดินทางไปนอกโลก แม้ว่านั่นอาจจะเป็นเรื่องของอนาคตอันห่างไกล และสำหรับฝั่งของเราด้วยเช่นกัน มีความเสี่ยงใดที่เราอาจต้องเผชิญ ต้องมีการประเมินแบบไหนกัน แค่คิดก็ท้าทายแล้ว แต่นั่นจะเป็นงานที่คุ้มค่า

การทดสอบไฟฟ้าสถิต

ภาพการทดสอบไฟฟ้าสถิต

มีการใช้ปืนยิงไฟฟ้าสถิตใส่นาฬิกาเพื่อประเมินความทนทานต่อไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นการทดสอบที่ทำกับนาฬิกาทั้งหมดในช่วงการพัฒนา มีการบอกกล่าวว่าร่างกายมนุษย์สามารถสะสมประจุไฟฟ้าได้มากกว่า 10,000 โวลต์ในช่วงฤดูหนาว ขณะที่เราพิจารณาถึงปัจจัยสภาพแวดล้อมและมาตรฐานของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอเทคนิกส์ (IEC) เราได้มีการใช้เกณฑ์ของ Casio สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ใช้ ทำให้การประเมินนั้นเข้มข้นมากขึ้นไปอีก ปืนยิงกระแสไฟฟ้าจะยิงกระแสไฟฟ้าที่ระบุออกมาเพื่อทดสอบดูความผิดพลาดหรือความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

การทดสอบความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน

ภาพการทดสอบความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน

มีการใช้การสั่นสะเทือนด้วยความเร็วสูงกับนาฬิกาที่ถูกยึดเอาไว้เพื่อทดสอบความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนมีความรุนแรงมากจนสามารถรับรู้ได้ถึงอีกชั้นหนึ่งของตึก

การทดสอบการตกกระแทก

ภาพการทดสอบการตกกระแทก

ความทนทานต่อแรงกระแทกได้รับการประเมินด้วยเกณฑ์ของ Casio เพื่อเพิ่มระดับจากค่าขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (ISO) เช่น ความสูง จำนวนครั้งที่ตก และทิศทาง โดยใช้อุปกรณ์ทดสอบการตกที่ได้รับการเร่งความเร็วที่ออกแบบมาเพื่อ G-SHOCK โดยเฉพาะ นาฬิกาจะถูกนำยึดกับแท่งโลหะและเร่งความเร็วด้วยกลไกสปริง หลังจากที่ตกลงมา นาฬิกาจะถูกปล่อยก่อนที่จะปะทะกับพื้น พร้อมกับมีแรงส่งที่ทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรง

การทดสอบการกันน้ำ

ภาพการทดสอบการกันน้ำ

เหมือนกับการทดสอบการตกกระแทก Casio ได้เพิ่มเกณฑ์ของตัวเองจากมาตรฐาน ISO สำหรับการกันน้ำในนาฬิกา นอกเหนือจากนี้ ได้มีการทดสอบมากมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำ รวมถึงการทดสอบความทนทานของปุ่มใต้น้ำสำหรับนาฬิกาดำน้ำทั้งในสภาวะที่เพิ่มแรงดันและไม่เพิ่มแรงดัน

ข้อกำหนดในการประเมินมากกว่า 200 รายการ

ภาพ: ข้อกำหนดในการประเมินมากกว่า 200 รายการ

ข้อกำหนดสำหรับการประเมินได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามคอนเซ็ปต์ของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผนังห้องแล็บระบุประเภทมากมายสำหรับการประกันคุณภาพที่เข้มงวดของ Casio ตั้งแต่การทดสอบความทนทานต่อสารเคมีที่ฟังดูรุนแรงไปยังถึงการทดสอบด้วยการจุ่มเหงื่อเทียมที่อิงจากตัวอย่างของเหงื่อคนจริงๆ เพื่อประเมินความทนทานต่อการกัดกร่อน

อ่านต่อ

Select a location